ทำความรู้จักปั๊มลมประเภทต่าง

82 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำความรู้จักปั๊มลมประเภทต่าง

ปั๊มลมสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 แบบหลักๆ ตามลักษณะการทำงาน ดังนี้

  1. ปั๊มลมแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor) เป็นปั๊มลมที่ใช้ลูกสูบในการอัดอากาศ โดยลูกสูบจะเคลื่อนที่ขึ้นลงเพื่ออัดอากาศเข้าไปในถังเก็บอากาศ ปั๊มลมแบบลูกสูบเป็นปั๊มลมประเภทแรกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น และยังคงเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เนื่องจากมีราคาไม่แพง ใช้งานง่าย และสามารถผลิตอากาศได้หลากหลายความจุและแรงดัน

  2. ปั๊มลมแบบสกรู (Screw Air Compressor) เป็นปั๊มลมที่ใช้สกรูในการอัดอากาศ โดยสกรูสองตัวจะหมุนสวนทางกันเพื่ออัดอากาศเข้าไปในถังเก็บอากาศ ปั๊มลมแบบสกรูมีประสิทธิภาพในการอัดอากาศสูง ผลิตอากาศได้ปริมาณมาก และสามารถทำงานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ปั๊มลมแบบสกรูจึงนิยมใช้กันในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการอากาศปริมาณมากและต่อเนื่อง เช่น งานผลิตรถยนต์ งานก่อสร้าง งานซ่อมบำรุง

  3. ปั๊มลมแบบไดอะแฟรม (Diaphragm Air Compressor) เป็นปั๊มลมที่ใช้ไดอะแฟรมในการอัดอากาศ โดยไดอะแฟรมจะเคลื่อนที่ขึ้นลงเพื่ออัดอากาศเข้าไปในถังเก็บอากาศ ปั๊มลมแบบไดอะแฟรมมีข้อดีคือ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ใช้น้ำมันในการหล่อลื่น ปั๊มลมแบบไดอะแฟรมจึงนิยมใช้กันในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น งานการแพทย์ งานอาหาร

  4. ปั๊มลมแบบใบพัด (Rotary Air Compressor) เป็นปั๊มลมที่ใช้ใบพัดในการอัดอากาศ โดยใบพัดจะหมุนเพื่ออัดอากาศเข้าไปในถังเก็บอากาศ ปั๊มลมแบบใบพัดมีประสิทธิภาพในการอัดอากาศต่ำ แต่มีราคาถูกและใช้งานง่าย ปั๊มลมแบบใบพัดจึงนิยมใช้กันในงานที่ต้องการอากาศปริมาณไม่มาก เช่น งานเติมลมยางรถยนต์ งานล้างรถ

การเลือกปั๊มลมที่เหมาะสมนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ความต้องการใช้งาน เช่น ต้องการใช้ปั๊มลมสำหรับงานประเภทใด ต้องการความจุอากาศเท่าใด ต้องการแรงดันอากาศเท่าใด
  • งบประมาณ
  • ขนาดและน้ำหนัก
  • ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

ปั๊มลมเป็นอุปกรณ์สำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการเกษตร เป็นต้น ปั๊มลมถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การเติมลมยางรถยนต์ การทำความสะอาดอุปกรณ์ การทาสี การตัด การเชื่อม เป็นต้น

Powered by MakeWebEasy.com